วันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2555

หน่วยที่ 4 การใส่เอฟเฟ็กต์ให้กับงานพรีเซนเตชั่น


หัวข้อการเรียนรู้
          ฟีเจอร์ใหม่ของ PowerPoint 2007
           หลักการออกแบบหน้าสไลด์
          กฎในการออกแบบหน้าสไลด์
           เครื่องมือในริบบอน (Ribbon)
           ส่วน ประกอบของหน้าต่างโปรแกรม Microsoft PowerPoint 2007
           มุมมอง(View) สไลด์แบบต่างๆ
          การ สร้างงานพรีเซนต์เตชั่นแบบง่ายๆMicrosort Office PowerPoint เป็นโปรแกรมที่สร้างขึ้นเพื่องาน Presentation โดยเฉพาะมีความสามารถใน
การสร้างงานพรีเซนต์ได้ง่ายและรวดเร็ว สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงงานพรีเซนต์ตามความต้องการได้อย่าง
สะดวก สวยงามและเอฟเฟ็กต์ต่างๆ ก็ดึงดูดผู้ชมได้มากกว่าการพรีเซนต์รูปแบบเดิมๆ
ฟีเจอร์ใหม่ของ PowerPoint 2007
             ในส่วนนี้จะกล่าวถึงว่ามีฟีเจอร์อะไรใหม่ๆ บ้างกับการพัฒนาของทาง Microsoft ที่ช่วยเพิ่ม
ประสิทธิภาพการท างานของผู้ใช้งาน ซึ่งก็มีอย่างหลายและง่ายต่อการใช้งาน พร้อมทั้งความสามารถในการ
จัดท าเอกสารให้มีรูปแบบที่สวยงามด้วยกราฟิกแบบใหม่ ซึ่งผู้เขียนขออธิบายลักษณะเด่น และ
ความสามารถที่น่าสนใจของ PowerPoint 2007 ดังนี้
อินเตอร์เฟสดูทันสมัยใช้ง่ายกว่าเดิม
             อินเตอร์เฟสหรือหน้าจอโปรแกรมนับเป็นสิ่งแรกที่เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของ PowerPoint 2007
ได้อย่างชัดเจน เนื่องจากมีการออกแบบปรับโฉมเป็นรูปแบบใหม่ทั้งหมด โดยค านึงถึงผู้ใช้งานเป็นหลักจึง
ท าให้สามารถเรียกใช้เครื่องมือและค าสั่งต่างๆ ได้สะดวกรวดเร็วขึ้นทูลบาร์เปลี่ยน เป็นริบบอน (Ribbon)
               ริบบอนมีลักษณะคล้ายกับทูลบาร์ที่เราคุ้นเคยกันดีใน PowerPoint 2003 ซึ่งเป็นแหล่งที่ใช้ส าหรับ
รวบรวมเท็บเครื่องมือต่างๆ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการท างานมากขึ้น โดยดึงเอาความสามารถออกมา
จากเมนูค าสั่งที่ซ้อน ๆ กันอยู่จากเวอร์ชั่นเดิม ให้แสดงอยู่ในรูปแบบของปุ่มเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อให้เห็น
ชัดเจนและคลิกใช้งานได้ ทันที
PowerPoint 2003
PowerPoint 2007สร้าง งานพรีเซนต์ใหม่จาก Template
           ส าหรับการเริ่มสร้างงานพรีเซนต์ใหม่แล้ว PowerPoint 2007 จะช่วยให้คุณสามารถสร้างงานได้อย่าง
รวดเร็วขึ้นจาก Template หรือแม่แบบสไลด์ส าเร็จรูปที่มีให้เลือกมากมาย โดยที่คุณไม่จ าเป็นต้องเริ่ม
ออกแบบงานใหม่ทุกครั้งและยังสามารถดาว์นโหลดแม่แบบเพิ่มเติมผ่านทางเว็บไซต์ Microsoft.com ได้อีก
ด้วยออกแบบสไลด์ได้อย่างมืออาชีพ
       Microsoft PowerPoint 2007 ยังมีเครื่องมือที่จะช่วยให้งานพรีเซนต์ของคุณเป็นมืออาชีพได้ง่ายๆ ด้วย
การออกแบบส าเร็จรูปที่พร้อมให้เลือกอย่างจุใจ อย่างเช่น การออกแบบพื้นหลังสไลด์ด้วย Themes Design
การปรับแต่งข้อความศิลป์ด้วย Word Art Style รวมทั้งการเลือกสีสันตามใจชอบด้วย Themes Color เป็นต้น
Word Art Style
Themes Color Themes Design
ก าหนด เอฟเฟ็กต์การเปลี่ยนสไลด์ได้ทันที
           ในโปรแกรม PowerPoint 2007 สามารถก าหนดเอฟเฟ็กต์การเปลี่ยนสไลด์หรือการเคลื่อนไหวของ
อ็อบเจ็กต์ได้ง่ายๆ จากริบบอนที่อยู่ทางด้านบน โดยมีลักษณะเป็นรูปไอคอนเล็ก ๆ ซึ่งจะช่วยให้คุณเห็นภาพ
การเปลี่ยนแปลงของเอฟเฟ็กต์ได้ชัดเจน และเลือกได้ถูกใจมากขึ้นการเปลี่ยน แปลงสไลด์ที่หลากหลายและเห็นตัวอย่างทันที
ปรับ แต่งภาพกราฟิกให้สวยงามเพียงคลิกเดียว
        ส าหรับผู้ที่ไม่ถนัดทางด้านการออกแบบศิลปะแล้วทาง Microsoft Office PowerPoint 2007 ก็ได้
ออกแบบโปรแกรมให้มีเครื่องมือที่ใช้ส าหรับแต่งภาพขึ้นมาด้วย ในชื่อเครื่องมือ Picture Styles ซึ่งเพียงเรา
เลือกรูปแบบที่ต้องการ ภาพก็จะถูกปรับแต่งออกมาสวยงามน่ามอง
มีสมาร์ทอาร์ต (SmartArt)
               ส าหรับ งานที่จ าเป็นต้องสร้างไดอะแกรมหรือผังองค์กรแล้ว SmartArt จะช่วยให้เราท างานได้
อย่างไม่ยากเย็น ทั้งยังช่วยให้มีความสวยงามมากขึ้นอีกด้วย เพราะภายในชุดตัวเลือกนี้จะมีรูปแบบของ
ไดอะแกรมให้เลือกมากมายรองรับกับงาน ทุกประเภทท างาน ร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
             หากคุณมีการพรีเซนต์งานที่เกี่ยวข้องกับการน าเสนอด้วยกราฟหรือแผนภูมิแล้วละก็ Microsoft
Office PowerPoint 2007 สามารถช่วยคุณได้เนื่องจากโปรแกรม Power Point 2007 และ Excel 2007 จะ
ท างานร่วมกันได้อย่างไม่มีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่งหรืออัพเดตข้อมูลตัวเลขในกราฟ ซึ่งสามารถท า
ได้โดยตรง โดยไม่ต้องเสียเวลาคัดลอกข้อมูลเหมือนเช่นเดิม
หลักการออกแบบหน้าสไลด์
               ในบางครั้งผู้สร้างงาน Presentation จะมีความสงสัยว่า มีหลักการอย่างไรบ้างที่จะท าให้การสร้าง
งานน าเสนอในแต่ละหน้ามีความน่าสนใจ และถูกหลักในการออกแบบ เพื่อส่งเสริมให้งาน  Presentation
สมบูรณ์โดยทั่วไปการออกแบบหน้าสไลด์ที่ถูกต้องจะมีหลักการดังนี้
การเลือกพื้นหลังสไลด์
  พื้นหลัง (Background)          
        เป็นปัจจัยแรกที่ส่งผลกับการออกแบบและผู้รับข้อมูลโดยตรง เพราะถ้าพื้นหลังไม่ดี จะท าให้ดูแล้วไม่
สบายตา  ดังนั้น จึงต้องมีหลักการเพื่อเป็นพื้นฐานของแนวคิดดังนี้การเลือกใช้ภาพประกอบ
          การเลือกใช้ภาพ เป็นการเสริมให้สไลด์ดูน่าสนใจยิ่งขึ้น แต่ถ้ามีมากเกินไป จะท าให้เกิดความสับสน
กับข้อมูล   ที่น าเสนอได้ ดังนั้นจึงมีวิธีการในการ เลือกใช้ภาพ ให้เหมาะสมดังนี้
1. ภาพที่น ามาใช้ต้องส่งเสริมข้อความที่น าเสนอ
2. ไม่ควรมีอักษรในภาพถ้าไม่จ าเป็น
3. ภาพที่น ามาใช้ไม่ควรใช้ไฟล์ที่มีขนาดใหญ่มากเพราะจะท าให้โปรแกรมท างานหนักขึ้น
การเลือกใช้ข้อความที่มีขนาดเหมาะสม
         ขนาดของข้อความเป็นส่วนประกอบหนึ่ง ที่ส าคัญที่จะช่วยให้การน าเสนอมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
ในการสื่อให้ผู้ที่มารับข้อมูลเข้าใจ โดยมีหลักการดังนี้
1. ตัวอักษรต้องอ่านง่าย โดยปกติตัวอักษรควรมีขนาดตั้งแต่ 36-60 Point และควรเป็นตัวหนา เพื่อจะสื่อได้
ชัดเจนมากขึ้น
2. ในหนึ่งสไลด์ไม่ควรใช้แบบตัวอักษรเกิน 2 ประเภทเพื่อความสวยงาม
การเลือกสีในการออกแบบ
         สีนับว่าเป็นส่วนส าคัญของการออกแบบหน้าจอ แม้ว่าโปรแกรมจะแสดงด้วยจอสีแต่ก็ไม่ได้
หมายความว่าจะใช้สีได้ตามที่ผู้ออกแบบต้องการ ทั้งนี้เนื่องจากผู้ใช้จะต้องใช้สายตาดูจอคอมพิวเตอร์เป็น
เวลานาน ถ้าโปรแกรมน าเสนอด้วยสีร้อน (Warm Colors) อาจท าให้เกิดความระคายเคือง สายตาของผู้ใช้ได้  สีร้อน (Warm Color)
         สีโทนร้อน คือ สีที่ให้ความหมายรื่นเริง สดชื่น ฉูดฉาด บาดอารมณ์ นับจากโทนสีเหลือง ชมพูแดง
ส้ม ม่วง น้ าตาล สีเหล่านี้ให้ความหมายเร่าร้อน มีอิทธิพลต่อการดึงดูด และกระตุ้นอารมณ์ได้มากกว่าโทนสี
อื่น ๆ สีเหล่านี้จะใช้มากกับงานประเภทหัวหนังสือ นิตยสาร แคตตาล็อก ตลอดจนป้ายโฆษณาต่างๆ ซึ่งจะ
กระตุ้นความสนใจต่อผู้พบเห็นได้เร็ว
 
สีเย็น (Cool Colors)
         เริ่ม จากสีเทา ฟ้า น้ าเงิน เขียว สีโทนนี้จัดอยู่ในสีโทนเย็น ให้อารมณ์ความรู้สึกสงบ สะอาด เย็นสบาย
กฎในการออกแบบหน้าสไลด์
           ในการสร้างสไลด์ในแต่ละหน้านั้น ผู้ใช้ควรมีกฎที่เป็นแนวทางในการสร้างงานน าเสนอก่อน เพื่อ
ไม่ให้เกิดความสับสน โดยพอสรุปกฎได้ดังนี้
    ในแต่ละสไลด์ควรมีหัวเรื่องเพื่อบอกถึงสิ่งที่จะอธิบาย
    ตัวอักษรควรใช้ขนาดใหญ่ เพื่อให้ผู้รับฟังและรับชมสามารถมองเห็นอย่างชัดเจน
    ควรใช้ค าสั้นๆ ที่อ่านเข้าใจง่าย เพื่อให้เกิดความน่าสนใจและน่าติดตาม
     หัวข้อของเนื้อหาไม่ควรเกิน 8 บรรทัดในหนึ่งสไลด์เพราะถ้ามีมากเกินไปจะส่งผลท าให้สื่อได้ไม่ชัดเจน
    ไม่ควรน าภาพมาเป็นพื้นหลัง (Background) เพื่อจะท าให้อ่านยาก
    การใส่รูปภาพสงในสไลด์ควรใช้ขนาดพอสมควรไม่ใหญ่เกินไปเครื่องมือต่างๆในริบบอน
ริบบอนหน้าแรก (Home)
    ส าหรับริบบอนหน้าแรก (Home) จะประกอบไปด้วยปุ่มค าสั่งที่เกี่ยวกับการจัดรูปแบบตัวอักษร การ
คัดลอกข้อความ การเปลี่ยนขนาดตัวอักษร และอื่นๆ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
กลุ่มหมายเลข ความหมาย
1
ชุด คลิบบอร์ด
คัดลอก เคลื่อนย้ายและคัดลอกรูปแบบ
2
ชุด ภาพนิ่ง
แทรกสไลด์ ลบสไลด์ เค้าโครง และตั้งค่าสไลด์
3
ชุด แบบอักษร
จัดรูปแบบตัวอักษร
4
ชุด ย่อหน้า
จัดต าแหน่ง และย่อหน้า
5
ชุด รูปวาด
ส าหรับวาดรูป และจัดรูปแบบรูปวาด6
ชุด การแก้ไข
ค้นหา และแทนที่ข้อความ
ริบบอนแทรก (Insert)
กลุ่มหมายเลข ความ หมาย
1
แทรก ตาราง
2
ชุด ภาพประกอบ
แทรกรูปภาพจากแฟ้ม ภาพตัดปะอัลบั้มรูป การ
วาดรูป (Drawing) ผังองค์กร และแผนภูมิ
3
การเชื่อมโยง
การเชื่อมโยงหลายมิติแลก าหนดการการท า
4
ชุด ข้อความ
แทรกอักษรศิลป์แทรกวันและเวลา แทรก
สัญลักษณ์พิเศษ เครื่องหมายการค้าลิขสิทธิ์5
ชุด มีเดียคลิป
แทรกภาพยนตร์ และเสียง
ริบบอนออกแบบ (Design)
ริบบอนนี้เป็นการรวม Background ต่างๆ เพื่อน ามาช่วยในการออกแบบหน้าสไตด์ให้ดูสวยงามมากขึ้น โดย
เพียงคลิกเลือกริบบอนที่ต้องการ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
กลุ่มหมายเลข ความหมาย
1
ชุด ตั้งค่ากระดาษ
ก าหนดขนาดระยะขอบเอกสารสไลด์ก าหนดการ
วางแนวหน้าสไลด์ให้เป็นแนวตั้ง
และแนวนอน
2
ชุด รูปแบบ
ชุดของลักษณะ สีและรูปแบบพื้นหลังต่างๆ ที่ใช้
ในหน้าสไลด์
3
พื้น หลัง
เปลี่ยนสีของพื้นหลังจากรูป แบบที่เลือก และซ่อน
กราฟิกพื้นหลังริบบอนภาพเคลื่อนไหว (Animation)
  ริบบอนที่รวบรวมภาพเคลื่อนไหว ( Animation) ระหว่างฉากเอาไว้เพื่อให้ผู้ใช้งานเลือกน าไป
ประกอบการน าเสนอให้ดูน่าสนใจยิ่งขึ้น ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
กลุ่มหมายเลข ความ หมาย
1
แสดง ตัวอย่าง
2
ชุด ภาพเคลื่อนไหว
เปิดหน้าต่างการเคลื่อนไหวก าหนดเอง เพื่อใช้ใน
การก าหนดรูปแบบ เคลื่อนไหว
วัตถุตามต้องการ
3
ชุด การเปลี่ยนไปยังภาพนิ่งนี้
เป็นชุดของลักษณะแบบการ เคลื่อนไหวต่างๆ ที่
ใช้ในภาพนิ่ง
4
ก าหนดเสียงที่จะล่นระหว่างเปลี่ยนภาพนิ่งก่อน
หน้าและปัจจุบัน เช่น
คลิกแล้วมีเสียงพิมพ์ดีดและก าหนดความเร็วของ
ภาพเคลื่อนไหว
ที่จะเล่นระหว่างเปลี่ยนแปลงภาพนิ่ง5
ก าหนดเมื่อคลิกเมาส์แล้วเปลี่ยนภาพนิ่ง หรือ
ก าหนดอัตโนมัติ
หลังจากเวลาที่ก าหนดให้เปลี่ยนภาพนิ่ง
ริบบอนการน าเสนอภาพนิ่ง (Slide Show)
กลุ่มหมายเลข ความ หมาย
1
ชุด เริ่มการน าเสนอภาพนิ่ง
แสดงการน าเสนอภาพนิ่งตั้งแต่ภาพ นิ่งแรก
ก าหนดให้แสดงผลภาพนิ่ง
ที่เลือก ก าหนดล าดับภาพนิ่ง ที่ต้องการ ให้แสดง
2
ชุด ตั้งค่า
เปลี่ยนค่าแสดงภาพนิ่ง เช่น ชนิดการน าเสนอ
ตัวเลือกการน าเสนอ
การซ่อนภาพนิ่งที่ เลือกระหว่างการน าเสนอแบบ
เต็มจอ
บันทึกค าบรรยาย ทดสอบการก าหนดเวลา
3
ชุด จอภาพ
ก าหนดความละเอียดของหน้าที่จะ น าเสนอและ
การเชื่อมต่อจอภาพหลายๆ
หน้าจอริบบอนตรวจทาน (Review)
ริบบอนตรวจทานจะ ประกอบไปด้วยปุ่มค าสั่งที่เกี่ยวกับการตรวจทาน การสร้างข้อคิดเห็น และการป้องกัน
เอกสาร ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
กลุ่มหมายเลข ความหมาย
1
ชุด การพิสูจน์อักษร
ตรวจสอบและสะกดไวยกรณ์ของข้อความใน
เอกสาร
ค้นหาเกสารอ้างอิง เสนอค าแนะน า ก าหนดภาษา
ในการตรวจสอบ และสะกดไวยากรณ์
2
ชุด ข้อคิดเห็น
แสดงข้อคิดเห็นและค าอธิบาย สร้างข้อคิดเห็น
เพิ่มเติม
ในส่วนที่ต้องการแก้ไข ลบ ข้อคิดเห็น
3
ป้องกันความปลอดภัยให้ไฟล์น าเสนอริบบอนมุมมอง ( View )
  ริบบอนมุมมองจะประกอบไปด้วยปุ่มค าสั่งที่ เกี่ยวกับการเปลี่ยนมุมมอง การย่อขยาย และการจัดเรียงหน้า
ภาพนิ่ง ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
กลุ่มหมายเลข ความ หมาย
11
ชุด มุมมองการน าเสนอ
เป็นการแสดงมุมมองแบบต่าง ๆ ซึ่งมีแบบปกติ
ตัวเรียงล าดับภาพนิ่ง หน้าบันทึกย่อ การน าเสนอ
ภาพนิ่ง
ต้นแบบภาพนิ่ง ต้นแบบเอกสารประกอบค า
บรรยาย
ต้นแบบบันทึกย่อ
2
แสดง/ซ่อน
แสดงหรือซ่อนไม้บรรทัดและเส้นตารางเพื่อใช้
ในการจัดเรียงวัตถุ
3
ย่อ/ขยาย
ย่อขยายภาพนิ่ง หรือจัดภาพนิ่งให้พอดีกับหน้าต่าง
4
ชุด สี/ระดับสีเทา
แสดงผลการน าเสนอภาพนิ่งเป็นแบบ 4 สี5
ชุด หน้าต่าง
เปิดหน้าต่างใหม่ที่มีมุมมองของ เอกสารใน
ปัจจุบัน จัดเรียงหน้าต่างเอกสาร
ที่เปิดไว้ทั้งหมด การเคลื่อนย้าย ตัวแยกที่คั่นอยู่ ใน
หน้าต่างโปรแกรม
6
แม โคร
การใช้งานมาโคร (ชุดเก็บค าสั่งหรือขั้นตอนการ
ท างาน
ส าหรับเรียกใช้ผ่านทางคีย์ลัดหรือปุ่มค าสั่ง
ริบบอน Add-in
ริบบอน Add-in ใช้ก าหนดแถบเครื่องมือตามที่ผู้ใช้งานต้องการได้เอง
มุมมอง (View) สไลด์แบบต่างๆ
ในโปรแกรม Microsoft PowerPoint 2007 สามารถแสดงมุมมองเอกสารได้หลายรูปแบบ โดยแต่ละแบบมี
รายละเอียด ดังนี้
มุมมองปกติ (Normal View)
           ส าหรับมุมมองปกติ (Normal View) เป็นมุมมองพื้นฐานในการใช้งานของ Microsoft PowerPoint
2007 ในการเริ่มต้นใช้งานทุกครั้งผู้ใช้งานจะเห็นมุมมองนี้เป็นอย่างแรก โดยจะมีส่วนประกอบอยู่สองส่วน
ทางด้านซ้ายมือของโปรแกรมนั่นคือแท็บภาพนิ่งและแท็บเค้าร่าง ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้          แท็บภาพนิ่ง (Slide View)
         จะแสดงภาพนิ่งทั้งหมดโดยเรียงล าดับจากภาพนิ่งแรกจนภาพนิ่งสุดท้าย
          แท็บเค้าร่าง (Outline View)
            จะแสดงภาพนิ่งและรายละเอียดทั้งหมดไว้ด้านข้าง โดยเรียงล าดับจากภาพนิ่งไปจนถึงภาพนิ่ง
สุดท้าย  มุมมองตัวเรียงล าดับภาพนิ่ง (Slide Sorter View)
          เป็นมุมมองที่แสดงภาพนิ่งทั้งหมดของการน าเสนอ โดยย่อให้ภาพนิ่งมีขนาดเล็กลง เพื่อแสดงภาพนิ่ง
ทั้งหมดภายในหน้าต่างโปรแกรม ท าให้สามารถตรวจสอบล าดับภาพนิ่ง และจัดเรียงก่อนการน าเสนอได้
อย่างถูกต้อง
มุมมองหน้าบันทึกย่อ (Notes Page View)
         เป็นมุมมองที่ใช้แสดงภาพนิ่งและกรอบบันทึกข้อความ เพื่อให้ผู้น าเสนอสามารถบันทึกรายละเอียด
ค าอธิบายต่างๆ เพื่อใช้เป็น เอกสารอ้างอิงมุมมองการน า เสนอภาพนิ่ง (Slide Show View)
          เป็นมุมมองที่แสดงภาพนิ่งแบบเต็ม จอเหมือนกับการฉายสไลด์ โดยสามารถที่จะเปลี่ยนไปหน้าต่างๆ
รวมไปถึงแสดงภาพเคลื่อนไหวที่ได้สร้างไว้
มุมมองต้นแบบภาพนิ่ง (Slide Master View)
          เป็นมุมมองที่แสดงต้นแบบโครงร่างต่างๆ ที่มีหลายองค์กรประกอบรวมกัน และท าให้งานเสนอไปใน
ทิศทางเดียวกัน เช่น ข้อความ รูปภาพ หรือกราฟิก เป็นต้นมุม มองต้นแบบเอกสารประกอบค าบรรยาย (Handout Master View)
             เป็นมุมมองที่แสดงต้นแบบเอกสารก่อนพิมพ์พร้อมทั้งการแก้ไขสามารถท าได้กับต้นแบบเอกสาร
ประกอบค าบรรยาย เช่น การปรับขนาด การจัดรูปแบบ หัวกระดาษ และท้ายกระดาษ และยังสามารถตั้งค่า
กระดาษ และระบุจ านวนภาพนิ่งที่จะพิมพ์ในแต่ละหน้าได้อีกด้วย
มุมมองต้นแบบบันทึกย่อ (Note Master)
           เป็นมุมมองที่แสดงต้นแบบภาพนิ่ง แต่จะมีส่วนของพื้นที่ในการบันทึกข้อความเพื่อใช้ในการ
ประกอบการบรรยาย
สร้างงานพรีเซนเตชั่นแบบง่ายๆ
          เมื่อได้ทราบถึง หลักการออกแบบหน้าสไลด์เพื่อการสร้างงาน Presentation กันไปแล้วให้หัวข้อนี้
ผู้เขียนจะแสดงการสร้างงาน Presentation แบบง่ายๆ ว่าจะมีขั้นตอนเบื้องต้นอย่างไรบ้าง ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้การเปิดโปรแกรม PowerPoint 2007
1. คลิก Start Menu
2. คลิกเลือก Programs
3. คลิก Microsoft Office
4. คลิกเลือก Microsoft PowerPoint2007
5. ปรากฏหน้าจอโปรแกรม Microsoft Office PowerPoint 2007   สร้างสไลด์แผ่นใหม่
การสร้าง สไลด์ใหม่ในโปรแกรม Microsoft Powerpoint 2007 จะสร้างสไลด์ที่ไม่มีข้อความหรือรูปภาพ
ใดๆ อยู่ในเอกสาร ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
1. คลิกปุ่ม (Office)
2. คลิกเลือกว่างและล่าสุด
3. คลิกที่งานน าเสนอเปล่า
4. คลิกปุ่ม สร้าง
  พิมพ์ข้อความลงในสไลด์
เมื่อเปิดหน้าสไลด์แล้วจะพบว่า มีพื้นที่สีขาวส าหรับพิมพ์ข้อความลงไป โดยการเริ่มต้นพิมพ์ข้อความลงใน
สไลด์มีขั้นตอนดังนี้
1. คลิกให้ปรากฏเส้นเคอร์เซอร์ตรงบริเวณกรอบที่ต้องการพิมพ์ตัวอักษร
 
2. พิมพ์ข้อความตามต้องการ เมื่อพิมพ์ข้อความจนสุดบรรทัด โปรแกรมจะขึ้นบรรทัดใหม่ ให้โดยอัตโนมัติ
(หากต้องการลบข้อความหรือค าผิดก็ให้แดรกเมาส์ เลือกข้อความ จากนั้นกดปุ่ม <Backspace> ที่คีย์บอร์ด)การจัดข้อความให้สวย
1. คลิกข้อความที่จะจัด
2 คลิกรูปแบบ
3. คลิกเลือกเครื่องมือที่ Ribbon โดยจัดตามต้องการพื้นหลังสไลด์ (Background)
          หลังจากที่ผู้ใช้พิมพ์ข้อมูลไปในกรอบแล้วยังมีอีกความสามารถหนึ่งของโปรแกรมนั่นก็คือการใส่
ภาพพื้นหลังแบบต่างๆ ที่มีมาให้เลือกใน Microsoft PowerPoint 2007 โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. คลิกแท็บออกแบบ (Design)
2. คลิกเลือกแม่แบบที่ต้องการ (ผู้ใช้สามารถน าเมาส์เลื่อนไปยัง Background อื่นก่อนได้ ซึ่งโปรแกรมก็จะ
พรีวิว Background นั่นให้ดูตัวอย่าง เมื่อถูกใจจึงคลิกเลือก)
3. จะปรากฏพื้นหลังตามต้องการ   การแทรกรูปภาพเข้ามาในสไลด์
1. คลิกแท็กแทรก (Insert)
2. คลิกปุ่ม รูปภาพ เพื่อเลือกรูปภาพที่จะน ามาใส่ในสไลด์
3. จะปรากฏหน้าต่างแทรกรูปภาพขึ้นมา ให้เลือกโฟลเดอร์ที่เก็บไฟล์ภาพ
4. คลิกเลือกรูปภาพที่ต้องการ
5.  คลิกปุ่ม แทรก (Insert) เพื่อแทรกรูปในสไลด์การเพิ่มความสวยให้กับรูปภาพ
โปรแกรม Powerpoint สามารถตกแต่งรูปภาพที่น าเข้ามาในสไลด์ให้สวยงามยิ่งกว่าเดิมได้ โดยวิธี
1. คลิกภาพในสไลด์ที่จะจัด
2. คลิกรูปแบบ
3. คลิกเลือกแบบที่ต้องการเพิ่มหน้าสไลด์ใหม่เข้ามา
ผู้ใช้งาน สามารถเพิ่มจ านวนหน้าสไลด์ได้เมื่อต้องการสร้างหน้าสไลด์ใหม่ใน Microsoft Power 2007 นั่น
คือ การเพิ่มรูปเข้าไปในสไลด์ ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
1. คลิกปุ่ม หน้าแรก
2. คลิกเลือก สร้างภาพนิ่ง
3. จะได้สไลด์เพิ่มขึ้นมาสร้างลูกเล่นเมื่อเปลี่ยนแผ่นสไลด์
    จากการที่ได้สร้างสไลด์ที่ผ่านมาจะพบว่าการสร้างจะมีลักษณะเหมือนการเปลี่ยนหน้าหนังสือ ซึ่งดูแล้ว
ไม่น่าสนใจ ซึ่งเราควรที่จะเพิ่มลูกเล่น (Effects) เข้าไป ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
1. คลิกหน้าสไลด์ที่จะใส่Effect
2. คลิกแท็บภาพเคลื่อนไหว (Animation)
3.  คลิกเลือกรูปแบบ Effects ที่ต้องการ(ซึ่งจะมีตัวอย่างของเอฟเฟ็กต์แสดงขึ้นมาให้ดูด้วยระหว่างที่เลือก)
4. จะแสดงตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงให้เห็น
  5. สังเกตจะมีดาวปรากฏขึ้นในสไลด์
 
การน าเสนอสไลด์
       หลังจากที่ได้สร้างสไลด์กันไปแล้วก่อนจะจบขั้นตอนผู้สร้างควรทดลองดูว่ามีข้อผิดพลาดอะไรบ้าง
ก่อนการน าเสนอจริง ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
1. คลิกแท็บ การน าเสนอภาพนิ่ง (Slide Show)
2. คลิกปุ่ม ตั้งแต่ต้น เพื่อเริ่มแสดงการฉายสไลด์ตั้งแต่สไลด์แรก3.  สไลด์จะปรากฏเต็มจอคอมพิวเตอร์
 
4. กดปุ่ม Enter ที่คีย์บอร์ด โปรแกรมจะเปลี่ยนหน้าสไลด์ทีละหน้า
  5. เมื่อสิ้นสุดจะปรากฏหน้าจบการน าเสนอภาพนิ่ง
6. กดปุ่ม Enter บนคีย์บอร์ดอีกครั้ง ก็จะกลับเข้าสู่หน้าโปรแกรมหลัก (หากในระหว่างการปรีเซนต์ต้องการ
ออกสู่หน้าโปรแกรมหลักทันทีให้กดปุ่ม <Esc> บนคียร์บอร์ด)
 
การบันทึกไฟล์PowerPoint
         จากขั้นตอนสร้างงาน Presentation พร้อมทั้งทดลองตรวจสอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนสุดท้าย คือ
การบันทึกไฟล์PowerPoint ลงในเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อเรียกใช้งานในครั้งต่อไป ซึ่งการบันทึกไฟล์
PowerPoint มีขั้นตอนดังนี้
1. คลิกปุ่ม (office)
2. คลิก บันทึก
3. เลือกต าแหน่งที่ใช้ในการเก็บเอกสาร ในช่องบันทึกใน (Save in)
4. ตั้งชื่อเอกสารในช่องชื่อแฟ้ม (File name) ในตัวอย่างผู้เขียนใช้ ทัศนคติที่ดีในการท างาน
5. คลิกปุ่ม บันทึก เพื่อยืนยันการบันทึก
6. ปรากฏชื่อไฟล์ที่บันทึกบนแท็บชื่อหัวเรื่อง (Titlebar) ชื่อครูจริยาภรณ์ คุ้มพันธ์ต าแหน่งครู
โรงเรียน ชุมชนวัดเสด็จ
อ าเภอเมืองจังหวัดปทุมธานี
ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษา ปทุมธานีเขต 1
E-mail : aoy64@hotmail.com
www: http://www.chorsor.ac.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น